มาบตาพุด จ.ระยอง ประเทศไทย – 15 มกราคม 2568 : บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ครบวงจรของไทย ประกาศความสำเร็จในการเริ่มผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) เป็นรายแรกของประเทศ นับเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานและเคมีภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมเคมีชีวภาพ ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ GC ในการสร้าง "ความแตกต่างด้วยนวัตกรรม ที่ยั่งยืน" โดยมุ่งสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านเคมีภัณฑ์ครบวงจรแห่งอนาคต ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050)
การผลิต SAF ของ GC เป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการกลั่นและเคมีภัณฑ์ชั้นสูง มาสู่นวัตกรรมพลังงานสะอาดสำหรับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรและของเสียในประเทศ และส่งเสริมศักยภาพของไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของภูมิภาคอาเซียน
นายทศพร บุณยพิพัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ GC กล่าวว่า “การผลิต SAF เชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันนี้ พร้อมรองรับความต้องการพลังงานทดแทนของอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ไทยที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และให้ความสำคัญกับการนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง SAF ของ GC ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC CORSIA (International Sustainability and Carbon Certification – Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ยอมรับในอุตสาหกรรมการบินสำหรับการรับรองความยั่งยืน และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 80%* เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป (*อ้างอิงตามมาตรฐานการรับรอง ISCC CORSIA) นอกจากนี้ GC ยังได้รับรองมาตรฐาน ISCC Plus (International Sustainability and Carbon Certification Plus) ซึ่งมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบชีวภาพและวัสดุหมุนเวียนใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดย GC ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงอีกกว่า 10 ชนิด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ ถือเป็นการยืนยันถึง ความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบความยั่งยืนสูงสุด”
ความท้าทายของตลาด
ความต้องการของตลาด SAF กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลจากความตระหนัก ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์และการกำหนดกรอบกฎหมายที่สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
GC ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสนี้ ด้วยจุดแข็งสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการกลั่นน้ำมัน และการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำน้ำมันพืชใช้แล้วภายในประเทศมาผลิตเป็น SAF เชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ GC ยังได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรสำคัญในอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งจะช่วยให้ GC สามารถรักษาส่วนแบ่งตลาด SAF ได้อย่างมั่นคง และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์และพลังงานในอนาคต
จุดเด่นที่สำคัญโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery)
แผนการเติบโตในอนาคต:
GC เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ที่มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมที่ยั่งยืน พร้อมส่งมอบโซลูชันเคมีภัณฑ์ครบวงจรตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในอนาคตและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนสำหรับทุกคน