เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 นายอนุลักษณ์ ถนอมสิทธิกุล ผู้จัดการสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผยว่า สมาคมเพื่อนชุมชน ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดสัมมนา “เครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมเชิงรุกในพื้นที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์” จังหวัดระยอง เพื่อพัฒนาความร่วมมือ และยกระดับศักยภาพในการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้กับสมาชิกเครือข่ายทั้ง 7 โซน มีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ของตนเอง
โดยเสริมองค์ความรู้ สร้างความตระหนักปัญหาสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือร่วมใจในการเฝ้าระวังขึ้นระหว่าง ผู้ประกอบการ ชุมชน หน่วยงานภาครัฐ สามารถหามาตรการจัดการประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ในครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนากว่า 100 คน ณ ห้องประชุมสมเจตน์ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง
ปัจจุบันการเสริมสร้างศักยภาพในการดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อุตสาหกรรม ได้มีการกำหนดรูปแบบการดำเนินการที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมเชิงรุก ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน มีเป้าหมายในการเสริมศักยภาพเชิงป้องกัน ที่ภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้สมาคมเพื่อนชุมชน ยังมีเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นการเตรียมความพร้อมป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดคิด หรือเหตุจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรอบ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติงานเชิงรุก เพื่อรับมืออย่างทันท่วงทีของผู้ประกอบการและชุมชนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อบ้านเราน่าอยู่..สังคมยั่งยืน
นายฉกาจ พัฒนศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) ประธานในพิธี กล่าวว่า การสัมมนา "เครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมเชิงรุกในมาบตาพุดคอมเพล็กซ์" เกิดจากความร่วมมือระหว่าง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ สมาคมเพื่อนชุมชน ซึ่งได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับการเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมร่วมกันระหว่าง ภาครัฐที่กำกับดูแลในพื้นที่ ผู้ประกอบการ และชุมชน
ปัจจุบันการส่งเสริมสร้างศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เห็นภาพได้อย่างชัดเจน จากการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมเชิงรุกในการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชนและโรงเรียน ในพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด และพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของการอยู่ร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
จังหวัดระยองถือเป็นพื้นที่การลงทุน และภาคการผลิตอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย ซึ่งการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม มีความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม คือ การที่ทุกภาคส่วน มีการจัดตั้งเครือข่ายการเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลพื้นที่ร่วมกัน รวมถึงมีการกำหนดแนวทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และนำไปสู่แนวทางการจัดการได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที ซึ่งหวังว่าการสัมมนาในครั้งนี้ จะดำเนินงานได้ครอบคลุมพื้นที่ และเป็นต้นแบบในการดำเนินการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตัวเอง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นายฉกาจ กล่าวทิ้งท้าย