อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำแก่กรมธนารักษ์ตามกำหนดสัญญา
ไม่หวั่น! เร่งเดินหน้าสร้าง Water Grid เชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด
อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำแก่กรมธนารักษ์ตามกำหนดสัญญา ตอกย้ำความมั่นใจแก่ทุกภาคส่วน ว่าพื้นที่ภาคตะวันออกจะมีน้ำใช้เพียงพอต่อความต้องการ เร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำเชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด หรือ Water Grid ความยาวรวม 526 กิโลเมตร สู่ความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันอออก
ตามที่บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ได้เข้าทำสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกกับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2536 มีกำหนดระยะเวลา 30 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อีสท์ วอเตอร์บริหารระบบท่อส่งน้ำและเก็บค่าน้ำดิบภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาฯ นั้น
โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์สินโครงการที่จะส่งมอบ และในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 กรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ได้ลงนามบันทึกส่งมอบ-รับมอบระบบท่อส่งน้ำ ตามสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ได้ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินคืนแก่กรมธนารักษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ อีสท์ วอเตอร์ คาดว่าการส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการจ่ายน้ำดิบลดลงบ้าง แต่การก่อสร้างระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำของอีสท์ วอเตอร์ ใกล้แล้วเสร็จ และมีความยาวท่อเพิ่มเติมอีกประมาณ 139 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ระบบท่อส่งน้ำมีความยาวรวมทั้งสิ้นประมาณ 526 กิโลเมตร เป็น Water Grid เชื่อมโยงแหล่งน้ำในภาคตะวันออกทั้งหมด เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทั้งในปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงยังเดินหน้าธุรกิจน้ำครบวงจร เช่น น้ำประปา น้ำอุตสาหกรรม การบำบัดน้ำเสีย และน้ำรีเคลม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ลงนามสัญญาโครงการน้ำครบวงจรไปแล้วมากกว่า 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และพร้อมที่จะกลับมาเป็นผู้ให้บริการท่อส่งน้ำสายหลักที่มีศักยภาพสูงสุดในประเทศไทยอีกครั้งภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567